วันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่มีบทบาทในการศึกษามีอะไรบ้าง และแต่ละอย่างเป็นอย่างไร

เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่มีบทบาทในการศึกษามีอะไรบ้าง และแต่ละอย่างเป็นอย่างไร


http://forum.datatan.net/index.php?topic=126.0 เทคโนโลยีสารสนเทสมีบทบาทต่อการศึกษา คือ เทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้สำหรับสอน เป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หลายอย่าง สอนด้วยสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย ห้องเรียนสมัยใหม่ มีอุปกรณ์วิดีโอ โปรเจคเตอร์มีเครื่องคอมพิวเตอร์ มีระบบการอ่านข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบต่างๆ รูปแบบของสื่อที่ทำมาให้ในด้านการเรียนการสอน ก็หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการนำมาใช้ เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอนอิเล็กทรอนิกส์บุค วิดีโอเทเลคอมเฟอร์เรนซ์ ระบบวิดีโอออนดีมานด์ การสืบค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์ และระบบอินเตอร์เน็ต เป็นต้น

1. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นการนำเอาเทคโนโลยี รวมกับการออกแบบโปรมแกรมการสอนซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่าบทเรียน CAI (Computer-Assisted Instruction) การจัดโปรมแกรมการสอน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ในปัจจุบันมักอยู่ในรูปของสื่อประสม (Multimedia)ซึ่งหมายถึงนำเสนอได้ทั้งภาพ ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหว ฯลฯ โปรมแกรมช่วยสอนนี้เหมาะกับการศึกษาด้วยตนเอง และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถโต้ตอบ กับบทเรียนได้ตลอดจนมีผลป้อนกลับเพื่อให้ผู้เรียน บทเรียนได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจในเนื้อหาวิชาของบทเรียนนั้นๆ

2. การเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก เป็นการจัดการเรียนที่มีสภาพการเรียนต่างไปจากรูปแบบเดิม การเรียนการสอนแบบนี้ อาศัยศักยภาพและความสามารถของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการนำเอาสื่อการเรียนการสอน ที่เป็นเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนการเรียนการสอน ให้เกิดการเรียนรู้ การสืบค้นข้อมูล และเชื่อมโยงเครือข่าย ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกสถานที่และทุกเวลา การจัดการเรียนการสอนลักษณะนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อได้แก่ การเรียนการสอนผ่านเว็บการฝึกอบรมผ่านเว็บ การเรียนการสอนผ่านเวิร์ดไวท์ การสอนผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์

3. อิเล็กทรอนิกส์บุค คือ การเก็บข้อมูลจำนวนมากด้วยซีดีรอม หนึ่งแผ่นสามารถเก็บข้อมูลตัวอักษรได้มากถึง 600 ล้านตัวอักษร ดังนั้นซีดีรอมหนึ่งแผ่นสามารถเก็บข้อมูลหนังสือหรือเอกสารได้มากกว่าหนังสือหนึ่งเล่ม และที่สำคัญคือการใช้กับคอมพิวเตอร์ทำให้สามารถเรียกค้นหาข้อมูลภายในซีดีรอม ได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ดัชนี สืบค้นหรือสารบัญเรื่องซีดีรอมจึงเป็นสื่อที่มีบทบาทต่อการศึกษาอย่างยิ่ง เพราะในอนาคตหนังสือต่างๆ จะจัดเก็บอยู่ในรูปซีดีรอม และเรียกอ่านด้วยเรื่องคอมพิวเตอร์ ที่เรียกอิเล็กทรอนิกส์บุคซีดีรอมมีข้อดีคือสามารถจัดเก็บ ข้อมูลในรูปแบบมัลติมีเดีย และเมื่อนำซีดีรอมหลายแผ่นใส่ไว้ในเครื่องอ่านชุดเดียวกัน ทำให้ซีดีรอมสามารถขยายการเก็บข้อมูลจำนวนมากยิ่งขี้ได้

4. วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ หมายถึงการประชุมทางจอภาพ โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย เป็นการประชุมร่วมกันระหว่างบุคคล หรือคณะบุคคลที่อยู่ต่างสถานที่ และห่างไกลกันโดยใช้สื่อทางด้านมัลติมีเดีย ที่ให้ภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง เสียง และข้อมูลตัวอักษรในขณะการประชุมในเวลาเดียงกัน และเป็นการสื่อสาร 2 ทาง จึงทำให้ดุเหมือนว่าได้เข้าร่วมประชุมร่วมกันตามปกติ ด้านการศึกษาวิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ ทำให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถติดต่อกันสื่อสารกันได้ ผ่านทางจอภาพ โทรทัศน์และเสียง นักเรียนที่อยู่ห่างไกลสามารถเห็นภาพและเสียง ของผู้สอนสามารถเห็นอากับกิริยาของผู้สอนเห็นการเคลื่อนไหวและสีหน้าของผู้สอนในขณะเรียน คุณภาพและเสียงขึ้นอยู่กับความเร็วของช่องทางการสื่อสาร ที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างสองฝั่งที่มีการประชุมกัน

5. การสืบค้นข้อมูล ปัจจุบันได้มีการกล่าวถึงระบบการสืบค้นข้อมูลกันมาก แต่ในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ก็มีการประยุกต์ใช้ไฮเปอร์เท็กซ์ในการสืบค้นข้อมูลจนมีโปรโตคอลชนิดพิเศษที่ใช้กันคือ World Wide Web หรือเรียกว่า www.

6. อินเตอร์เน็ต คือ ขอบข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายย่อย และเครือข่ายใหญ่สลับซับซ้อนมากมาย เชื่อมต่อกันมากกว่า 300 ล้าน เครื่องในปัจจุบัน

http://www.edu.nu.dc.th/supanees/lesson/366515/uint2_po1.html

เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลต่อการศึกษา คือ

1. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารลดความเลื่อมล้ำของโอกาสทางการศึกษา สิ่งนี้เป็นเงื่อนไขสำคัญในการตอบสนองนโยบายการศึกษาที่เป็น “การศึกษาเพื่อประชาชน”

2. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา เทคโนโลยีในรูปแบบต่างๆ

3. การพัฒนาบุคคลกรทางการศึกษาให้มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ในประเด็นนี้ได้คำนึงระดับการสร้างทักษะพื้นฐาน การสร้างผู้สอนที่มีความรู้ที่จะใช้เทคโนโลยี

4. บทบาทของอินเตอร์เน็ตกับการศึกษาอินเตอร์เน็ต ”เครือข่ายแห่งเครือข่าย ” ทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันอย่างเสรี



สรุปได้ว่า

เทคโนโลยีสารสนเทศมีผลต่อการศึกษา คือ การศึกษาที่ไร้พรมแดนเป็นการเรียนแบบอิสรเสรีประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปศึกษาได้ ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเพิ่มทักษะในการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยได้อย่างคล่องตัว อีกด้านหนึ่งเป็นการพัฒนาบุคคลากรทางการศึกษาให้มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี เพื่อนำความรู้ไปถ่ายทอดแก่ผู้ที่มาศึกษาสามารถนำไปใช้ประโชน์ต่อไปได้

อ้างอิง

http://forum.datatan.net/index.php?topic=126.0

http://www.edu.nu.dc.th/supanees/lesson/366515/uint2_po1.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น